ไข่ป่าม
![]() |
ไข่ป่าม |
ไข่ป่ามเป็นอาหารพื้นบ้านภาคเหนือทำจากไข่ไก่ปรุงรสนำมาใส่กระทงใบตองแล้วนำไปปิ้งไฟ ขอบอกเลยว่ารสชาติแสนอร่อยมีกลิ่นหอมของใบตองนิดๆ เพิ่มความอร่อยให้กับเมนูไข่ "ไข่ป่าม เป็น
อาหารพื้นบ้านภาคเหนือตี่ดูแสนธรรมดาแต่ขอบอกว่าแสนจะอร่อย"
อาหารพื้นบ้านภาคเหนือตี่ดูแสนธรรมดาแต่ขอบอกว่าแสนจะอร่อย"
วัตถุดิบและเครื่องปรุง
1. ไข่ไก่ หรือไข่เป็ด
2. กระเทียม
3. หอมแดงหั่น
4. พริกสด (แล้วแต่ความชอบ)
5. ต้อหอมซอย
6. น้ำปลา ซิอิ้ว หรือเกลือปรุงรส (แล้วแต่ความชอบ)
วิธีทำ
1. ไข่ไก่ หรือไข่เป็ด
2. กระเทียม
3. หอมแดงหั่น
4. พริกสด (แล้วแต่ความชอบ)
5. ต้อหอมซอย
6. น้ำปลา ซิอิ้ว หรือเกลือปรุงรส (แล้วแต่ความชอบ)
วิธีทำ
วิธีการทำไข่ป่ามในแต่ละพื้นที่ก็มีความแตกต่างกันไป บางพื้นที่ก็ไม่โขลกพริกกระเทียมแต่ใช้การซอยเป็นชิ้นเล็กๆ บางพื้นที่ก็ใส่แต่ต้นหอมกับหัวหอมซอยแล้วปรุงรสด้วนเกลือ น้ำปลา หรือซิอิ้วก็แล้วแต่ความชอบและการประยุกต์ แต่ผมขอบอกว่าเสน่ห์ของไข่ป่ามคือกลิ่นหอมของใบตองเวลานำไปย่างไฟที่ซึมเข้าไปในเนื้อไข่ทำให้ไข่มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน แต่สำหรับบางคนไม่สะดวกในการนำกระทงใบตองไปย่างไฟก็มีการประยุกต์ใช้กระทะทำกับข้าว โดยนำใบตองมาวางไวบนกระทะประมาณสามสี่ชั้นแล้วเทไขที่ปรุงรสแล้วลงไปย่างบนเตาแก๊สด้วยไฟอ่อนๆหาฝาหม้อมาปิดทิ้งไว้ประมาณสิบห้านาทีไข่ก็สุกก็ถือว่าเป็นไข่ป่ามประยุกต์
ข้าวหนึกงา
![]() |
ข้าวหนึกงา |
ข้าวหนึกงา เป็นอาหารพื้นบ้านพื้นเมืองหรือสำหรับบางคนก็เป็นของกินเล่น ที่มักนิยมทำกินกันในช่วงฤดูหนาว ซึ่งวิธีการทำก็ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และมีปรธโยชน์ด้วย โดยนำข้าวเหนียว (นิยมนำข้าวเหนียวที่ยังร้อน ๆ อุ่น ๆ มาทำ ) มาผสมคลุกเคล้ากับงาที่โขลกละเอียด (คำว่า “หนึก” เป็นคำเมืองแปลว่าผสมคลุกเคล้านวดให้เข้ากัน) ใส่เกลือเล็กน้อย เท่านี้ก็ได้ “ข้าวหนึกงา” ที่แสนจะอร่อยไว้กินเล่นในวันอากาศหนาว ๆ
ผักหม(ผักโขม)ผักพื้นบ้านขึ้นอยู่ทั่วไปตามแหล่งธรรมชาติเช่น ป่าละเมาะ ริมทาง ชายป่าที่รกร้าง ในบริเวณสวนผัก สวนผลไม้ ไร่นาของชาวบ้าน ผักหมมีคุณค่าทางด้านสารอาหารมากมายมีโปรตีนสูงและที่สำคัญสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย “แก๋งผักหม”บางคนนิยมรับประทานกับพริกแห้งทอดเป็นเครื่องเคียง เป็นอาหารพื้นบ้านที่อร่อยได้กลิ่นอายความเป็นพื้นบ้าได้อย่างชัดเจน
วัตถุดิบและเครื่องปรุง
5.กระเทียม
7.กะปิ
8.เกลือปรุงรส
วิธีทำ
1.โขลกพริก กระเทียม ปลาร้า กะปิ ให้ละเอียด
2.ตั้งน้ำให้เดือด
3.ใส่ข่าหั่นลงไป
4.ใส่พริกแกงคนให้ละลายน้ำ
5.ใส่ผักหมลงไป
6.ใส่ไข่ไก่หรือไข่เป็ดคนให้ไข่แดงแตกเล็กน้อย
7.ปรุงรสด้วยเกลือ
8.เมื่อไข่และผักสุกตักพร้อมเสริฟ
บ่าก่อ,บ่าก่อหิน
บ่าก่อหิน, เกาลัดเมืองไทย |
บ่าก่อ,บ่าก่อหิน (เกาลัดเมืองเหนือ)เป็นผลไม้ป่าที่ผลิดอกออกผลและร่วงหล่นในช่วงปลายฝนต้นหนาว ลักษณะของผลด้านนอกจะเป็นหนามแหลมแข็งส่วนเมล็ดด้านในจะมีเปลือกแข็งห่อหุ้ม เนื้ออ่อนไว้ รสชาติหวานมันคล้ายเกาลัด
อ้างอิงจาก:http://www.phayao108.com/category/
แอปเปิ่ลเมือง
![]() |
แอปเปิลเมือง |
แอปเปิ่ลเมือง
หรือลูกน้ำนมในภาษากลาง หรือบักยางในภาษาอีสานเป็นไม้ยืนต้น ใบเดี่ยว ยาวรี
หน้าใบเป็นมัน เขียวเข้ม หลังใบเป็นสีเหลืองทอง ดอกออกเป็นช่อ ตามซอกใบ
สีเขียวอมเหลือง หรือชมพูอมขาว กลิ่นหอม ผลทรงกลม มีทั้งพันธุ์สีเขียว
พันธุ์สีม่วงแดง พันธุ์เปลือกเขียว เนื้อสีขาว ส่วนพันธุ์เปลือกม่วง
เนื้อสีขาวอมม่วง รสหวานหอม เมล็ดสีน้ำตาลอ่อน กินเป็นผลไม้สด
ผลของมีสารต้านอนุมูลอิสระ เปลือกต้นเป็นยาบำรุงและยาชูกำลัง
ยาต้มจากเปลือกใช้เป็นยาแก้ไอ
แอปเปิ่นเมืองจะเริ่มออกผลในช่วงเดือนพฤศจิกายนและผลจะเริ่มสุกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมของทุกๆ
ปี รสชาติหวานมัน อร่อย ผู้เขียนยังจำได้ว่าในสมัยยังเป็นเด็กนั้นมักจะเห็นแอปเปิ่ลเมืองมีอยู่แทบทุกบ้านในชุมชน
ในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูจากหนาวเข้าสู่ฤดูร้อนแอปเปิ่ลเมืองเริ่มสุก
ในช่วงนี้เราเห็นภาพเด็กๆ ปีนป่ายเก็บกินลูกแอปเปิ่ลเมือง
บ้างก็อยู่ด้านล่างของต้นใช้ไม้สอย บางรายก็เอาไม้ขว้างให้ลูกแอปเปิ่นให้ตกลงมา
เป็นอีกหนึ่งสีสันในฤดูร้อนกับความสนุกสนานของเด็กๆ
แต่ในปัจจุบันต้นแอปเปิ่ลเมืองเริ่มมีให้เห็นน้อยลง หลายต้นได้ถูกตัดโค่น
ไปตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของวิถีนชีวิต
หลายคนไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าแอปเปิ่ลเมืองหน้าตาเป็นอย่างไร ภาพของเด็กๆ
ที่เคยปีนป่ายเก็บผลแอปเปิ่นไม่มีให้เห็นในสังคมปัจจุบัน
เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่วิถีชีวิตของผู้คนกับแอปเปิ่ลเมืองเริ่มเลือนหายไปจากสังคมบ้านเรา
คงเหลือทิ้งไว้เพียงเรื่องราวในความทรงจำของผู้คนกับต้นแอปเปิ่ลในสมัยเยาว์วัย
อ้างอิงจาก:http://www.phayao108.com/category/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น